เจมมีน่าย (Gemini) กับ ChatGPT แตกต่างกันอย่างไร?

ในยุคที่ AI Chatbot และโมเดลภาษาใหญ่ (LLM) กำลังเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันและการทำงาน ผู้คนมักสงสัยว่า เจมมีน่าย (Gemini) ของ Google และ ChatGPT ของ OpenAI แตกต่างกันอย่างไร บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจความแตกต่างของสองโมเดล AI ชั้นนำนี้ในแง่ของ เทคโนโลยี, การใช้งาน, และความสามารถเฉพาะตัว


1. ผู้พัฒนาและแนวคิดเบื้องหลัง

  • ChatGPT: พัฒนาโดย OpenAI โมเดลนี้เน้นการสร้าง บทสนทนาเชิงข้อความ และการโต้ตอบกับผู้ใช้อย่างเป็นธรรมชาติ

  • Gemini: พัฒนาโดย Google DeepMind โดยเจมมีน่ายถูกออกแบบให้รองรับ multi-modal หรือการประมวลผลทั้ง ข้อความและภาพ พร้อมการเชื่อมต่อกับระบบและข้อมูลของ Google

สรุป: ChatGPT เน้นข้อความและการสนทนา Gemini เน้นการวิเคราะห์หลายรูปแบบและการเชื่อมต่อกับ ecosystem ของ Google


2. เทคโนโลยีและโครงสร้าง

คุณสมบัติChatGPTGemini
สถาปัตยกรรมGPT-4 (LLM ของ OpenAI)Gemini 1, 1.5, 2 (Multi-modal LLM)
รองรับข้อมูลข้อความและบางเวอร์ชันรองรับโค้ดข้อความ + ภาพ + Multi-modal รุ่นใหม่
การเรียนรู้Supervised + RLHF (Reinforcement Learning from Human Feedback)Multi-modal + RLHF, รองรับทั้งข้อความและภาพ
การเชื่อมต่อ ecosystemมี API, Plugins, Integrationรองรับการค้นหา Google และระบบนิเวศ Google
การใช้งานเฉพาะChat, Text Generation, Code, Summarizationวิเคราะห์ภาพ+ข้อความ, Multi-modal Tasks, Research, Data Insights

3. ความสามารถและการใช้งาน

  • ChatGPT

    • เหมาะกับ บทสนทนาเชิงข้อความ, การสร้างคอนเทนต์, การช่วยเขียนโค้ด, การทำ Research

    • มีปลั๊กอินและ API สำหรับ นักพัฒนา และธุรกิจที่ต้องการให้ AI ทำงานร่วมกับระบบอื่น ๆ

  • Gemini

    • เหมาะกับงาน Multi-modal เช่น วิเคราะห์ภาพร่วมกับข้อความ, ทำ infographic, การเรียนรู้เชิงลึก

    • เชื่อมต่อข้อมูลจาก Google Knowledge Graph ทำให้ตอบคำถามเชิงข้อมูลและ research ได้แม่นยำ

สรุป: ChatGPT เน้น Text-based Tasks Gemini เน้น ภาพและข้อความรวมกัน และงานที่ต้องการข้อมูลเชิงลึก


4. ข้อดีและข้อจำกัด

4.1 ChatGPT

ข้อดี:

  • บทสนทนาเป็นธรรมชาติและราบรื่น

  • รองรับหลายภาษาและมี Plugin/Integration มากมาย

  • เหมาะสำหรับงานสร้างคอนเทนต์, การตอบคำถาม และโค้ด

ข้อจำกัด:

  • ประสิทธิภาพการวิเคราะห์ภาพหรือ multi-modal ยังจำกัด

  • บางครั้งข้อมูลอัปเดตไม่ทันสมัย ต้องตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม

4.2 Gemini

ข้อดี:

  • รองรับ Multi-modal วิเคราะห์ข้อความ + ภาพพร้อมกัน

  • การเชื่อมต่อข้อมูลจาก Google ecosystem ทำให้แม่นยำและเชิงลึก

  • เหมาะกับงานวิจัย, การสร้าง infographic, และการวิเคราะห์ข้อมูล

ข้อจำกัด:

  • การสนทนาแบบ Text-only อาจไม่ราบรื่นเท่า ChatGPT

  • ต้องคุ้นเคยกับระบบ Google และ Multi-modal workflow


5. การเลือกใช้: ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์

  • เลือก ChatGPT หากคุณต้องการ:

    • แชตและสนทนาเป็นธรรมชาติ

    • เขียนบทความ, สรุปข้อมูล, โค้ดโปรแกรม

    • ใช้ API และ Plugins กับระบบของคุณ

  • เลือก Gemini หากคุณต้องการ:

    • วิเคราะห์ข้อมูลภาพ + ข้อความพร้อมกัน

    • งานวิจัยและการทำ Data Insight

    • การเชื่อมต่อและเข้าถึงข้อมูลจาก Google


📝 สรุป

  • ผู้พัฒนา: ChatGPT = OpenAI, Gemini = Google DeepMind

  • การใช้งานหลัก: ChatGPT = Text-based, Gemini = Multi-modal

  • ความสามารถเฉพาะตัว: ChatGPT = การสนทนาและโค้ด, Gemini = วิเคราะห์ภาพ+ข้อความ, เชิงลึก

  • เหมาะกับใคร: เลือกตามงานที่ต้องการทำและความสะดวกในการเข้าถึง ecosystem ของแต่ละโมเดล

สรุปสั้น ๆ:

  • ถ้าต้องการ บทสนทนาและสร้างคอนเทนต์ → ChatGPT

  • ถ้าต้องการ งาน multi-modal, วิเคราะห์ภาพพร้อมข้อมูล → Gemin