Categories
Uncategorized

น้ำเข้าโทรศัพท์ วิธีแก้ให้ทำแบบนี้ !

น้ำเข้าโทรศัพท์ วิธีแก้ให้ทำแบบนี้

          น้ำเข้าโทรศัพท์ วิธีแก้ต้องทำยังไงเพื่อไม่ให้โทรศัพท์มือถือเกิดความเสียหาย น้ำเข้าโทรศัพท์หน้าจอลายซ่อมได้ไหม ที่นี่มีคำตอบ

          หากว่าใครไม่ได้ใช้โทรศัพท์กันน้ำที่มีคุณสมบัติสามารถกันน้ำได้ดี หรืออาจกันได้เพียงแค่น้ำกระเด็นหกใส่ ก็มีโอกาสที่น้ำจะเข้าโทรศัพท์มือถือจนเกิดความเสียหายได้ ซึ่งหากใครทำน้ำเข้าโทรศัพท์แล้ว แต่ไม่รู้ว่าควรจะต้องทำอย่างไรบ้าง เพื่อไม่ให้โทรศัพท์เสียหายและกลับมาใช้งานได้เหมือนเดิม วันนี้เรามีวิธีแก้ต่าง ๆ มาแนะนำกัน
 

น้ำเข้าโทรศัพท์ วิธีแก้ทำยังไงบ้าง

 

1. ปิดเครื่องทันที

 
          ถึงแม้ว่าส่วนใหญ่โทรศัพท์เครื่องจะดับเมื่อมีน้ำเข้า แต่ถ้าหากรู้ว่าน้ำเข้าแล้วเครื่องยังไม่ดับ แนะนำให้รีบปิดเครื่องทันที เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดไฟฟ้าลัดวงจร ทำให้แผงวงจรภายในช็อต ส่วนใครที่ใช้โทรศัพท์รุ่นที่สามารถถอดแบตเตอรี่ได้ก็ควรถอดแบตเตอรี่ออกด้วย
 

2. ถอดซิมและ microSD ออก

 
          เปิดฝาช่องใส่ซิมแล้วถอดซิมออกมาจากตัวเครื่อง นำไปเช็ดให้แห้งแล้วเก็บไว้ให้ดี อย่าทำหาย หากเป็นโทรศัพท์ที่สามารถใส่ microSD ได้ก็ให้ถอด microSD ออกด้วย นอกจากนี้ถ้าหากตัวเครื่องมีส่วนอื่นที่สามารถเปิดได้อย่างเช่นฝาปิดพอร์ตต่าง ๆ ก็ให้เปิดทิ้งไว้ด้วย

น้ำเข้าโทรศัพท์
 

3. ใส่โทรศัพท์ในถุงสุญญากาศ

 
          ถ้าหากมีถุงสุญญากาศ ให้นำเครื่องโทรศัพท์ที่น้ำเข้าใส่ลงไปในถุงแล้วดูดอากาศออกให้หมด เพื่อให้น้ำที่ขังอยู่ในเครื่องถูกดูดออกมาด้วย
 

4. นำไปส่งศูนย์ซ่อม

 
          โดยทั่วไปหากน้ำภายในตัวเครื่องแห้งหมดแล้วก็จะสามารถเปิดเครื่องใช้งานได้ตามปกติ แต่เนื่องจากเราไม่สามารถมั่นใจได้ว่าน้ำแห้งหมดหรือยัง หากเสี่ยงเปิดเครื่องทั้งที่ยังมีความชื้นหรือน้ำขังภายในตัวเครื่องอยู่อาจทำให้เครื่องเสียหายได้ เพราะฉะนั้นจึงควรนำโทรศัพท์ไปส่งศูนย์บริการหรือร้านซ่อมเพื่อทำการตรวจเช็กและทำให้ภายในตัวเครื่องแห้งสนิทเสียก่อน หรือถ้าหากตรวจพบอาการเสียใด ๆ ก็จะได้ดำเนินการซ่อมต่อไป
 

น้ำเข้าโทรศัพท์หน้าจอลาย ทำยังไงดี

 
          ปัญหาโทรศัพท์หน้าจอลายนั้นถือเป็นอีกหนึ่งอาการที่สามารถเกิดขึ้นได้หากมีน้ำเข้าเครื่อง ซึ่งในกรณีที่หน้าจอยังไม่เกิดความเสียหาย การใช้วิธีตามหัวข้อด้านบนเพื่อทำให้ภายในตัวเครื่องโทรศัพท์แห้งก็อาจสามารถแก้ปัญหาโทรศัพท์หน้าจอลายให้หายไปได้ แต่ในกรณีที่หน้าจอเกิดความเสียหายหรือหน้าจอยังคงลายอยู่แม้ว่าน้ำจะแห้งสนิทแล้ว อาจจำเป็นต้องลงเอยด้วยการเปลี่ยนหน้าจอใหม่
 

น้ำเข้าโทรศัพท์ซ่อมกี่บาท

 
          หากน้ำเข้าโทรศัพท์แล้วปิดเครื่องไม่ทันจนเครื่องดับไปเอง หรือเผลอเปิดเครื่องในขณะเครื่องยังเปียกน้ำอยู่ อาจทำให้แผงวงจรข้างในเกิดการช็อต จำเป็นต้องซ่อมได้ด้วยการเปลี่ยนบอร์ดหรือหน้าจอ ซึ่งมีค่าซ่อมที่ค่อนข้างสูง หรืออาจเกือบเท่าราคาซื้อเครื่องใหม่ได้เลย ถึงแม้ว่าจะเป็นเครื่องที่ประกันยังไม่หมดก็จะต้องเสียค่าซ่อมอยู่ดี เนื่องจากอาการเสียที่เกิดจากน้ำเข้าโทรศัพท์นั้นไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน นอกเสียจากว่าบอร์ดยังไม่ช็อต สามารถเปิดเครื่องใช้งานได้อยู่ แต่เจอปัญหาเพียงเล็กน้อย เช่น หน้าจอลาย ช่องหูฟังเปียก ขึ้นรูปหูฟังค้าง สามารถแก้ปัญหาได้ด้วยการทำให้แห้ง เป็นต้น
 
          อย่างไรก็ตาม การหาทางป้องกันไม่ให้น้ำเข้าโทรศัพท์ย่อมเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ถ้าหากว่ามีกิจกรรมที่เกี่ยวกับน้ำ ไม่ว่าจะเป็นการว่ายน้ำ เที่ยวทะเล หรือเล่นสงกรานต์ ถ้าโทรศัพท์มือถือรุ่นที่ใช้อยู่ไม่มีคุณสมบัติกันน้ำ หรือไม่สามารถกันน้ำได้ดีนัก ก็ควรป้องกันไว้ก่อนด้วยการนำโทรศัพท์ใส่ถุงหรือเคสกันน้ำนะครับ
Cr. https://mobile.kapook.com/view7632.html

สมัครแพ็กเสริม ให้สนุกได้ www.pronetdonjai.com

Categories
Uncategorized

วิธีชาร์จแบตเตอรี่มือถือกับ 5 เรื่องจริงที่คุณควรรู้

วิธีชาร์จแบตเตอรี่มือถือกับ 5 เรื่องจริงที่คุณควรรู้

วิธีชาร์จแบตเตอรี่มือถือที่ถูกต้อง กับ 5 เรื่องจริงที่คุณควรรู้ ใช้งานและชาร์จมือถือยังไงไม่ให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วเกินไป มีวิธีป้องกันมือถือแบตฯ เสื่อมก่อนเวลาอันควรได้อย่างไรบ้าง มาดูกันเลย

         ถึงแม้ว่าปัจจุบันแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือจะพัฒนาให้มีความจุที่สูงขึ้น ใช้ได้นานขึ้น รวมทั้งระบบชาร์จเร็วที่ทำให้ไม่ต้องใช้เวลาชาร์จนานเป็นชั่วโมงเหมือนสมัยก่อนแล้ว แต่เมื่อถึงเวลาที่แบตเตอรี่เริ่มเสื่อมสภาพ ผู้ใช้ก็ต้องเจอกับปัญหาแบตเตอรี่หมดไวอยู่ดี แม้จะมีตัวช่วยอย่าง Power Bank ก็ตาม และก็อาจจะยังไม่อยากซื้อมือถือใหม่ ซึ่งหลายคนคงมีข้อสงสัยว่า ตัวเองใช้มือถือและชาร์จแบตเตอรี่อย่างถูกวิธีแล้วหรือยัง เพราะถ้าหากใช้จากความเข้าใจผิด ๆ อาจทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็วขึ้นได้ วันนี้เราจึงจะพาไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับการชาร์จแบตเตอรี่ที่ถูกต้องกัน

5 เรื่องจริงเกี่ยวกับวิธีชาร์จแบตเตอรี่มือถือ
 

1. ฟีเจอร์ชาร์จเร็วไม่ทำให้แบตเตอรี่เสื่อม

           มือถือส่วนใหญ่ในปัจจุบันมักรองรับการชาร์จเร็วมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยในบางรุ่นสามารถชาร์จได้สูงสุดเกิน 100W เลยทีเดียว แต่หลายคนก็อาจกังวลว่าการชาร์จแบบนี้จะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็วขึ้นหรือไม่ เพราะต้องอัดกระแสไฟฟ้าเข้าสู่แบตฯ มือถืออย่างรวดเร็ว ซึ่งความจริงมือถือที่รองรับส่วนใหญ่ถูกออกแบบมาเพื่อการนี้อยู่แล้ว จึงไม่ต้องห่วงว่าจะกระทบต่ออายุของแบตเตอรี่เลย

           หลักการชาร์จแบตเตอรี่เร็วจะแบ่งออกเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงแรกจะอัดแรงดันไฟฟ้าแบบเต็มที่ อย่างที่คำเคลมของหลายแบรนด์กล่าวไว้ว่า ชาร์จได้ 50-70% ภายใน 30-40 นาที แต่หลังจากนั้นระยะเวลาการชาร์จจะเริ่มช้าลงเพื่อช่วยถนอมแบตเตอรี่ ส่วนใครที่จับตัวเครื่องขณะชาร์จแล้วรู้สึกว่าอุ่นหรือร้อนก็ไม่ต้องแปลกใจ เพราะยังอยู่ในการชาร์จช่วงแรกที่ต้องอัดกระแสไฟเข้าอย่างรวดเร็วนั่นเอง

2. แบตเตอรี่ไม่สามารถชาร์จไฟเกิน 100% ได้

           ใครที่ชอบชาร์จแบตฯ มือถือทิ้งไว้ แต่กังวลว่ามันจะชาร์จไฟเกินหลังจากเต็ม 100% แล้วหรือไม่ ขอให้สบายใจได้เลย เพราะเมื่อแบตเตอรี่ถูกชาร์จเต็ม 100% ระบบจะตัดการทำงานทันที ดังนั้นจะไม่เกิดปัญหาชาร์จไฟเกินความจุแบตเตอรี่แน่นอน นอกเสียจากว่าแบตเตอรี่ก้อนนั้นจะมีปัญหาเรื่องวงจรภายใน อย่างไรก็ตาม การชาร์จแบตเตอรี่ให้ได้ 80% แล้วถอดออก จะช่วยถนอมแบตเตอรี่ได้มากกว่าการชาร์จจนเต็ม 100% แล้วเสียบทิ้งไว้ แต่มือถือในปัจจุบันหลายรุ่นก็มีฟีเจอร์ที่สามารถกำหนดเวลาให้ชาร์จเต็มในช่วงเวลาที่ผู้ใช้มักจะถอดสายชาร์จออกพอดีด้วยเช่นกัน

3. อย่าปล่อยแบตเตอรี่ให้หมดเกลี้ยง 0%

           หลายคนอาจจะเคยใช้มือถือจนแบตเตอรี่หมดเกลี้ยงเหลือ 0% หรือปล่อยให้เครื่องดับเองบ่อย ๆ ซึ่งถือว่าเป็นพฤติกรรมที่ส่งผลให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็วขึ้นและไม่ควรทำ โดยมือถือบางรุ่นจะดับเครื่องทันทีเมื่อแบตเตอรี่ใกล้หมด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลเสียต่อแบตเตอรี่ แต่แนะนำว่าควรชาร์จแบตเตอรี่เมื่อเหลือระดับต่ำกว่า 30% จะดีกว่า

แบตเตอรี่มือถือ

4. แบตเตอรี่เสียหายได้ หากอยู่ในที่อากาศร้อน

           การปล่อยให้แบตเตอรี่มือถืออยู่ในที่ที่อุณหภูมิสูงกว่า 30 องศาเซลเซียส จะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วขึ้น ฉะนั้นจึงไม่ควรใช้หรือเก็บมือถือในที่อากาศร้อนจัด เช่น ในรถยนต์ กลางแดดจ้า ริมหน้าต่างที่แสงแดดส่องถึง แต่ด้วยสภาพอากาศประเทศไทยที่ร้อนตลอดทั้งปี ถ้าเป็นไปได้ควรเลี่ยงการใช้งานมือถือกลางแดดหรือท่ามกลางอากาศร้อนนานเกินไป

วิธีชาร์จแบตเตอรี่

5. ใช้ที่ชาร์จยี่ห้ออื่น ไม่เป็นอันตรายต่อแบตเตอรี่

           แน่นอนว่าการใช้ที่ชาร์จแบตเตอรี่ที่แถมมาในกล่องมือถือตอนซื้อย่อมดีที่สุดแล้ว แต่ถ้าเปลี่ยนไปใช้หัวชาร์จหรือสายชาร์จยี่ห้ออื่นที่รองรับก็ไม่เกิดผลเสียหรืออันตรายต่อแบตเตอรี่แต่อย่างใด นอกเสียจากว่าจะเป็นที่ชาร์จที่ผลิตมาไม่ได้มาตรฐานหรือมีความเสียหาย เพียงแต่ระยะเวลาการชาร์จอาจจะอยู่ในระดับปกติหรือช้าลงบ้างสำหรับมือถือที่รองรับการชาร์จเร็ว

แล้วจะประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ได้อย่างไรบ้าง ?

           สำหรับวิธียืดระยะเวลาการใช้งานมือถือไม่ให้แบตเตอรี่หมดเร็วนั้นไม่ยากเลย สามารถทำได้หลายอย่าง เช่น ปรับลดแสงหน้าจอ, ปิดการค้นหาสัญญาณ Wi-Fi / Bluetooth / GPS เมื่อไม่ได้ใช้งาน, เปิดโหมดประหยัดพลังงานเมื่อแบตเตอรี่ใกล้หมด ก็จะช่วยให้ใช้งานได้นานขึ้น แถมยังช่วยให้แบตเตอรี่มีอายุการใช้งานที่นานขึ้นอีกด้วย

           อย่างไรก็ตาม แบตเตอรี่มือถือมีอายุการใช้งานของมันที่จะต้องเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา ซึ่งส่วนมากแบตเตอรี่จะเริ่มเสื่อมเมื่อใช้งานเกิน 3 ปี โดยสิ่งที่เราสามารถทำได้ก็คือการถนอมแบตเตอรี่ด้วยการชาร์จและใช้งานอย่างถูกวิธี แต่ไม่ถึงกับต้องวิตกกังวลมากเกินไป เพราะเราอาจจะได้เปลี่ยนมือถือเครื่องใหม่ก่อนที่แบตเตอรี่จะเสื่อมก็ได้

Cr. https://mobile.kapook.com/view6818.html

สมัครแพ็กเสริม ให้สนุกได้ www.pronetdonjai.com

Categories
Uncategorized

วิธีประหยัดแบตเตอรี่ไอโฟน

วิธีประหยัดแบตเตอรี่ไอโฟน

แนะนำวิธีประหยัดแบตเตอรี่ไอโฟน ที่จะช่วยให้แบตเตอรี่หมดช้าลง สามารถใช้งานไอโฟนได้ยาวนานมากขึ้น

          หนึ่งในปัญหาที่ผู้ใช้ไอโฟนมักจะต้องประสบกันบ่อย ๆ ก็คือ แบตเตอรี่หมดไว โดยเฉพาะผู้ใช้ไอโฟนรุ่นเก่า ๆ ที่แบตเตอรี่ยังไม่อึดเท่ารุ่นใหม่ ๆ ซึ่งนอกจากการพก Power Bank ติดตัวแล้ว การใช้วิธีประหยัดแบตเตอรี่ไอโฟนที่เรากำลังจะแนะนำดังต่อไปนี้ก็สามารถช่วยยืดเวลาให้สามารถใช้ไอโฟนได้นานขึ้นได้เช่นกัน

วิธีประหยัดแบตเตอรี่ไอโฟน
 

1. อัปเดต iOS เป็นเวอร์ชั่นล่าสุด

          ในบางกรณีระบบปฏิบัติการ iOS ของไอโฟนนั้นอาจพบบั๊กหรือปัญหาบางอย่างที่ทำให้มีการกินพลังงานแบตเตอรี่มากกว่าปกติ ซึ่งการอัปเดตเป็นเวอร์ชั่นใหม่ที่ได้รับการแก้ไขแล้วก็จะสามารถช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวได้ นอกจากนี้ก็อาจมีการปรับปรุงระบบให้มีการจัดการพลังงานที่ดีขึ้นและประหยัดแบตเตอรี่ได้มากขึ้นอีกด้วย

2. ปรับแสงหน้าจอให้เหมาะสม

          การปรับแสงหน้าจอให้สว่างมาก ๆ ก็ส่งผลให้เปลืองพลังงานแบตเตอรี่ด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้นจึงควรปรับความสว่างของหน้าจอให้เหมาะสม หรืออาจปรับลดให้ต่ำกว่าปกติในการณีที่ต้องการประหยัดแบตเตอรี่ นอกจากนี้แนะนำให้เปิดใช้งานฟีเจอร์ปรับความสว่างอัตโนมัติไว้ด้วย โดยสามารถเข้าไปตั้งค่าเปิดได้ที่ Settings (การตั้งค่า) > Accessibility (การช่วยการเข้าถึง) > Display & Text Size (จอภาพและขนาดข้อความ) แล้วเลือกเปิด Auto-Brightness (ปรับความสว่างอัตโนมัติ)

3. ใช้อินเทอร์เน็ต Wi-Fi

          การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบ Wi-Fi นั้นจะใช้พลังงานน้อยกว่าการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตมือถือแบบ Cellular เพราะฉะนั้นถ้าหากอยู่ในบ้านหรือสถานที่ที่มี Wi-Fi ให้ใช้งานได้ การเลือกใช้ Wi-Fi ก็จะช่วยประหยัดแบตเตอรี่ได้มากกว่า

4. เปิดใช้โหมดประหยัดพลังงาน

          โหมดประหยัดพลังงาน (Low Power Mode) จะลดปริมาณพลังงานที่ไอโฟนใช้เพื่อประหยัดแบตเตอรี่ โดยจะจำกัดการทำงานให้เลือกแต่ฟีเจอร์ที่จำเป็นเท่านั้น ส่วนไอโฟนรุ่นที่มีเทคโนโลยีจอภาพ ProMotion เมื่อเปิดโหมดประหยัดพลังงานจะจำกัดอัตรารีเฟรชจอภาพให้เหลือเพียง 60fps ทั้งนี้ ไอโฟนอาจทำงานบางอย่างช้าลงเมื่ออยู่ในโหมดประหยัดพลังงาน โดยสามารถเข้าไปเปิดโหมดประหยัดพลังงานได้ที่ Settings (การตั้งค่า) > Battery (แบตเตอรี่)

5. ปรับแต่งการใช้แบตเตอรี่ของแอปฯ ต่าง ๆ

          หากเข้าไปที่หน้า Settings (การตั้งค่า) > Battery (แบตเตอรี่) จะสามารถเช็กดูได้ว่าแต่ละแอปฯ นั้นมีรูปแบบการทำงานที่กินพลังงานแบตเตอรี่อย่างไรบ้าง เพื่อที่จะได้ปรับจำกัดการทำงานของแอปฯ นั้น ๆ โดยแบ่งออกเป็นประเภทต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

          – แอปฯ ที่มีการทำงานแบบเบื้องหลัง ให้เข้าไปปิดที่ Settings (การตั้งค่า) > General (ทั่วไป > Background App Refresh (ดึงข้อมูลแอปฯ จากเบื้องหลัง)
          – แอปฯ เมลที่มีการทำงานแบบเบื้องหลัง เข้าไปเลือกปรับการรีเฟรชอีเมลได้ที่ Settings (การตั้งค่า) > Accounts & Passwords (บัญชีและรหัสผ่าน) > Fetch New Data (ดึงข้อมูลใหม่)
          – แอปฯ ที่มีการทำงานเกี่ยวกับการแชร์ตำแหน่ง สามารถเข้าไปปิดได้ที่ Settings (การตั้งค่า) > Privacy (ความเป็นส่วนตัว) > Location Services (บริการหาตำแหน่งที่ตั้ง)
          – แอปฯ ที่มีการเปิดหน้าจอโฮมหรือหน้าจอล็อกอัตโนมัติเมื่อมีการแสดงแจ้งเตือน สามารถเข้าไปปิดการแจ้งเตือนของแอปฯ ที่ Settings (การตั้งค่า) > Notifications (การแจ้งเตือน)

6. เปิดโหมดเครื่องบิน

          หากอยู่ในบริเวณที่อับสัญญาณหรือสัญญาณไม่ค่อยดี ไอโฟนจะพยายามค้นหาสัญญาณที่ดีกว่า ซึ่งกินพลังงานแบตเตอรี่ โดยสามารถทำให้ไอโฟนหยุดการค้นหาสัญญาณได้ด้วยการเปิดโหมดเครื่องบิน (Airplane mode) แต่ในระหว่างที่เปิดโหมดนี้จะไม่สามารถโทร. ออกหรือรับสายได้

         ทั้งหมดนี้ก็คือวิธีต่าง ๆ ที่ถ้าหากทำแล้วจะช่วยประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ของไอโฟนได้ นอกจากนี้ยังสามารถนำไปปรับใช้กับโทรศัพท์มือถือยี่ห้ออื่น ๆ ได้เช่นกัน

เครดิต https://mobile.kapook.com/view7641.html

สมัครแพ็กเสริม ให้สนุกได้ www.pronetdonjai.com

Categories
Uncategorized

ลูกติดโทรศัพท์มือถือแก้อย่างไรดี พร้อมวิธีรับมืออย่างสร้างสรรค์

ลูกติดโทรศัพท์มือถือแก้อย่างไรดี

เมื่อลูกก้าวสู่ช่วงอายุ 7 – 12 ปี คุณพ่อคุณแม่จะได้เห็นพัฒนาการที่สำคัญในทุก ๆ ด้าน ทางร่างกาย พวกเขาจะมีการขยายสัดส่วนที่รวดเร็ว ทั้งความสูง น้ำหนักตัว ความแข็งแรงของกระดูกและกล้ามเนื้อ เด็ก ๆ วัยนี้ควรได้ทำกิจกรรมที่หลากหลาย อย่างการออกกำลังและรวมกลุ่มกับเพื่อนวัยเดียวกัน เพื่อให้พวกเขาเรียนรู้ที่จะเข้าสังคม ตัดสินใจเรื่องต่าง ๆ ด้วยตัวเองได้ง่ายมากขึ้น

แต่ในปัจจุบันที่มีเทคโนโลยีรายล้อมรอบตัว หลายบ้านอาจเผลอปล่อยให้ลูกอยู่กับจอมือถือหรือเครื่องเล่นเกมเป็นเวลานาน ทำให้มีอาการก้าวร้าวจากการติดโทรศัพท์ พ่วงด้วยปัญหาการควบคุมอารมณ์ สมาธิสั้น และสุขภาพที่ไม่แข็งแรงตามมา

ป้องกันเด็กติดโทรศัพท์มือถือ

 

เช็กอาการ ลูกเราติดโทรศัพท์มือถือหรือไม่ ?

 

✓ ใช้เวลากับหน้าจอนานเกินไป ซึ่งโดยปกติไม่ควรเกิน 16 ชม./สัปดาห์

✓ ก้าวร้าว ชอบทำเสียงดังโวยวาย

✓ สมาธิสั้น จดจ่อกับอะไรไม่ได้นาน

✓ แยกตัวจากสังคม ไม่ยอมออกไปเล่นกับเพื่อน

 

พ่อแม่ควรสังเกต “ลูกติดโทรศัพท์มือถือ” กับ 5 ผลเสียระยะยาว

 

การเล่นมือถือหรือเกมออนไลน์เป็นกิจกรรมช่วยผ่อนคลายความเครียดและสร้างความสนุกให้กับเด็ก ๆ แต่หากคุณพ่อคุณแม่ไม่มีกำหนดเวลาที่แน่ชัด ปล่อยให้ลูกเพลิดเพลินกับแสงสีฟ้าในท่านั่งเดิมไปเรื่อย ๆ ไม่ขยับไปไหน ก็อาจมีผลเสียต่อพัฒนาการที่ไม่สมวัยของพวกเขาได้

ลูกติดโทรศัพท์มือถือสงผลเสียต่อสุขภาพ

 

1. ลูกเริ่มปวดศีรษะ ตา และต้นคอ ที่เกิดจากการเพ่งและนั่งผิดท่า หรือรู้สึกเจ็บกล้ามเนื้อมือจากการกดมือถือท่าเดิม ๆ ซ้ำ ๆ

2. ลูกติดโทรศัพท์ มีอาการก้าวร้าว พูดไม่เพราะ มีอารมณ์ที่รุนแรงกว่าเด็กทั่วไป อ่านวิธีแก้ไขลูกก้าวร้าวเพิ่มเติมได้ที่ วิธีแก้ไขพฤติกรรมก้าวร้าว

3. เข้ากับเพื่อนได้ยาก เพราะไม่ได้ลองแลกเปลี่ยน หรือสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับคนอื่น

4. เลิกสนใจกิจกรรมที่เคยชอบทำ เรียนรู้ได้น้อยลง

5. เสี่ยงต่อการเป็นโรคอ้วนในเด็ก เพราะเคลื่อนไหวน้อยและกินขนมระหว่างที่เล่น

 

ปรับพฤติกรรมลูกอย่างสร้างสรรค์ คุณแม่ช่วยได้

 

การปรับพฤติกรรมลูกที่เริ่มมีการติดโทรศัพท์ไปแล้ว ไม่จำเป็นต้องห้ามเล่น แต่ใช้วิธีการสร้างวินัยให้กับลูก เช่น ทำการบ้านให้เสร็จก่อน อาบน้ำ ทานข้าวให้เรียบร้อย การจำกัดชั่วโมงในการเล่นหรือชวนลูกออกไปทำกิจกรรมอื่นๆ เช่น เล่นกีฬา ออกกำลังกายสำหรับเด็กโดยเฉพาะ รวมไปถึงคุณแม่ก็สามารถเข้าร่วมเล่นมือถือกับลูกได้ เช่น เล่นเกมหรือดูรายการในยูทูปไปด้วยกัน เพราะการเล่นมือถือถ้าใช้ให้ถูกวิธีก็สามารถสร้างประโยชน์ได้ และคุณแม่เองก็จะสามารถช่วยให้คำแนะนำกับสิ่งที่ลูกเล่นหรือดูได้อย่างถูกต้อง มาดู 5 วิธีแก้ไขอย่างสร้างสรรค์เพื่อไม่ให้การเล่นมือถือของลูกเกิดผลเสียตามภาพได้เลยค่ะ

วิธีแก้เด็กติดโทรศัพท์มือถือ

 

1. กำหนดเวลาเล่นให้ชัดเจน โดยไม่ควรเล่นโทรศัพท์เกิน 2 ชั่วโมงต่อครั้ง

2. ฝึกให้ลูกรู้จักอดทนและเลี่ยงสื่อที่รุนแรงในมือถือ

3. ให้ลูกออกไปทำกิจกรรมรวมกลุ่มกับเพื่อนมากขึ้น เช่น เข้าชมรมศิลปะ เรียนพิเศษ เรียนดนตรี

4. พาลูกออกไปทำกิจกรรมครอบครัวด้วยกัน

5. ชวนทำกิจกรรมอื่นๆ เช่น เล่นกีฬา ฝึกทำอาหารและฝึกกินอาหารที่มีประโยชน์

นอกจากนี้ การหากิจกรรมให้ลูกทำที่บ้าน และการมอบความรักและเอาใจใส่จากคุณพ่อคุณแม่เป็นแรงกระตุ้นสำคัญที่ช่วยลดนิสัยก้าวร้าวจากการติดโทรศัพท์ลงได้ ซึ่งสิ่งนี้ผู้ปกครองควรค่อย ๆ แก้ไขแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่หากยังไม่ดีขึ้นก็สามารถขอคำแนะนำจากผู้แพทย์เชี่ยวชาญได้เช่นกัน

Cr. https://www.milo.co.th/all-blog/วิธีรับมือเด็กติดโทรศัพท์มือถือ

สมัครแพ็กเสริม ให้สนุกได้ www.pronetdonjai.com

Categories
Uncategorized

เช็กเบอร์มงคล 2567 จับคู่ยังไงให้ปังทั้งเงินทองความรัก

เช็กเบอร์มงคล 2567 จับคู่ยังไงให้ปังทั้งเงินทองความรัก

ชวนเช็กเบอร์มงคลสำหรับปี 2567 ต้องลงท้ายเลขอะไร ต้องจับคู่เลขอะไรให้ปัง ทั้งเรื่องเงินทองและเรื่องความรัก ดวงปีนี้จะต้องปัง ถ้าพร้อมแล้วก็มาดูกันเลยว่ามีเบอร์มง

เบอร์มงคลช่วยเสริมดวงความรักให้สมหวังดั่งใจ รับรองว่าไม่มีนก!
เบอร์มงคลช่วยเสริมดวงความรักให้สมหวังดั่งใจ

ไหน ๆ ใครอยากให้ดวงความรักปีนี้สมหวังบ้างงง ต้องรีบมาจดเบอร์มงคลที่จะช่วยเสริมดวงเรื่องความรักให้สมหวังดั่งใจไปใช้ รับรองว่าเปลี่ยนมาใช้เบอร์นี้ไม่มีนกแน่นอน เลขท้ายเบอร์มงคลเลขสวย เปลี่ยนแล้วจะช่วยเสริมดวงความรักได้จริง ใครที่ยังโสดอยากมีแฟน หรือใครที่มีแฟนแล้วอยากให้แฟนขอแต่งงาน ลองเอาเบอร์มงคลเหล่านี้ไปใช้ได้เลย บอกเลยว่าไม่นกแน่นอนจ้าาา

เบอร์มงคล : 24, 36, 47, 48, 66
เบอร์มงคลช่วยเสริมการเงินให้ปังแบบตัวแม่
เบอร์มงคลช่วยเสริมการเงินให้ปังแบบตัวแม่ การเงินรุ่งเรืองขึ้นไปอีก

ปากท้องเป็นเรื่องสำคัญ! ดังนั้นต้องมาดูเบอร์มงคลที่จะช่วยเสริมการเงินให้ปังขึ้น กระเป๋าตุง เงินในบัญชีเกิน 7 หลัก ปี 2567 ปีนี้จะต้องไม่กินแกลบอีกต่อไป ถ้าใครอยากมีดวงเรื่องการเงินเพิ่มมากขึ้น ลองเอาเบอร์มงคลที่เรานำมาฝากไปเปลี่ยนเบอร์ได้ เปลี่ยนเลขท้ายแล้วมีแต่ปัง ดึงดูดทรัพย์สิน เงินทอง และความมั่งมีให้เข้ามาใส่ตัว

เบอร์มงคล : 34, 38, 42, 44, 99
เบอร์มงคลช่วยเสริมการงานราบรื่นไม่มีสะดุด
เบอร์มงคลช่วยเสริมการงานราบรื่นรับรองว่าไม่มีสะดุด

ต่อกันด้วยเบอร์มงคลช่วยเสริมหน้าที่การงานให้ปัง แน่นอนว่าหลาย ๆ พอเข้าสู่วัยทำงาน ก็ต้องอยากให้หน้าที่การงานปัง ๆ เลื่อนขั้นตำแหน่งหรือได้เพิ่มเงินเดือน ใครที่อยากให้การงานดียิ่งขึ้น แน่นอนว่าเราก็ได้เอาเบอร์มงคลเด็ด ๆ มาฝากแล้วค่ะ เปลี่ยนมาใช้เบอร์เลขท้ายเหล่านี้ รับรองว่างานปังขึ้นแบบก้าวกระโดด

เบอร์มงคล : 02, 09, 40, 52, 88
รวมเบอร์มงคลจับคู่ยังไงให้ปังทั้งเงินทองความรัก
รวมเบอร์มงคลจับคู่ยังไงให้ปังทั้งเงินทองความรัก

เบอร์มงคลเสริมดวงทุกด้าน เหมาะสำหรับคนที่อยากเสริมดวงให้ทั้งเรื่องเงินทองและความรัก เพื่อน ๆ ต้องรีบกดบันทึกรูปเอาไว้เลย ปี 2567 ปีนี้ ถ้าใครอยากให้เสริมดวงชะตาให้ดีขึ้น ลองเปลี่ยนเบอร์ให้ลงท้ายด้วยตัวเลขเหล่านี้ดู อาจจะเปลี่ยนโชคชะตาและชีวิตของเพื่อน ๆ ได้เลยนะคะ

หวังว่าสายมูคงจะถูกใจกับ เช็กเบอร์มงคล 2567 จับคู่ยังไงให้ปังทั้งเงินทองความรัก เบอร์มงคลที่เอามาฝากในวันนี้เหมาะสำหรับการคนที่ต้องการจะเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์และอยากเสริมดวงทั้งด้านความรัก เงินทอง และหน้าที่การงาน แต่ยังไงเบอร์มงคลก็เป็นความเชื่อส่วนบุคคล ใครที่เป็นสายมูก็รีบเปลี่ยนเบอร์ให้ไว ส่วนใครที่ยังไม่เป็นสายมูก็ลองเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ให้เป็นเบอร์มงคลได้ รับรองว่าไม่มีอะไรเสียหาย แถมยังช่วยให้สบายใจขึ้นด้วยยย

อ่านต่อได้ที่ https://www.wongnai.com/articles/lucky-phone-number?ref=ct

สมัครแพ็กเสริม ให้สนุกได้ www.pronetdonjai.com

Categories
Uncategorized

10 ผลเสียต่อสุขภาพ จากการเล่นสมาร์ทโฟนนานเกินไป

10 ผลเสียต่อสุขภาพ จากการเล่นสมาร์ทโฟนนานเกินไป

1. รบกวนการนอนหลับ

แสงจากจอมือถือหรือแท็บเล็ตที่สว่างๆ ส่งผลต่อการหลั่งฮอร์โมน “เมลาโทนิน” ที่ช่วยควบคุมการนอนหลับ เนื่องจากการปล่อยฮอร์โมนดังกล่าวจะขึ้นอยู่กับแสงสว่างเป็นสำคัญ การเล่นมือถือก่อนนอนจึงส่งผลต่อการนอนหลับไปด้วย

2. เกิดความเครียด
การใช้สมาร์ทโฟนอยู่ตลอดเวลา เท่ากับว่าเราต้องพร้อมที่จะรับโทรศัพท์ ตอบข้อความต่างๆ ที่แจ้งเตือนเข้ามาจากช่องทางต่างๆ ทั้งไลน์ อีเมล และโซเชียลมีเดียตลอดเวลาด้วยเช่นกัน จึงทำให้เกิดความเครียดได้โดยไม่รู้ตัว

3. ทำลายจอประสาทตา
แสงสีฟ้าจากจอสมาร์ทโฟนสามารถทำลายจอประสาทตา (เรติน่า) จนนำไปสู่โรคจอประสาทตาเสื่อมได้  ซึ่งสูตรที่ใช้กันเพื่อดูแลสุขภาพตา คือ 20-20-20  โดยมองจอแค่ 20 นาที จากนั้นพักสายตามองที่อื่น 20 วินาที  โดยมองสิ่งที่อยู่ไกลจากตัวเอง 20 ฟุต เพื่อคลายความล้าจากการใช้สายตา

4. ปวดคอ
ส่วนใหญ่แล้วเวลาที่ก้มมองจอโทรศัพท์เพื่อพิมพ์ข้อความต่างๆ  คนเรามักจะก้มคอราว 60 องศา ซึ่งเป็นท่าที่ไม่เหมาะสม เพราะจะส่งให้เกิดอาการปวดคอได้หากก้มเป็นเวลานานๆ

5. พฤติกรรมก้าวร้าว
คนที่ติดการใช้มือถือและไม่ได้ใช้ในเวลาที่ต้องการ มักจะเกิดอาการหงุดหงิด ก้าวร้าว เพราะไม่ได้ดั่งใจ ซึ่งพบได้บ่อยในเด็กๆ ที่ติดเล่นเกมในสมาร์ทโฟน

6. เสียสมาธิ
การใช้สมาร์ทโฟนเชื่อมต่อกับโซเชียลมีเดีย ส่งผลให้เสียสมาธิได้ เพราะแทนที่จะจดจ่อกับการทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งให้ลุล่วง ก็ต้องมาพะวงกับเสียงแจ้งเตือนต่างๆ ที่เข้ามาจนขาดสมาธิ

7. Cellphone Elbow
Cellphone Elbow คือ อาการปวดชา หรือเหน็บชาบริเวณปลายแขนและมือ จากการถือสมาร์ทโฟนด้วยท่าทางที่งอแขนเป็นมุมแคบกว่า 90 องศานานเกินไป ซึ่งหากไม่ได้รับการแก้ไขก็อาจทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือเกิดข้องอติดแข็งที่นิ้วนางกับนิ้วก้อยได้

8. นิ้วล็อก
การใช้นิ้วใดนิ้วหนึ่งพิมพ์ข้อความหรือเล่นเกมในมือถือนานเกินไป ส่งผลให้เกิดอาการนิ้วล็อกได้ ซึ่งเกิดจากการอักเสบของเส้นเอ็นและปลอกหุ้มเอ็นที่ใช้ในการงอนิ้วข้อมือตรงบริเวณโคนนิ้ว ทำให้เกิดอาการปวดบวม โดยส่วนใหญ่มักเป็นกับนิ้วหัวแม่มือที่ใช้งานมากกว่านิ้วอื่นๆ

9. ซึมเศร้า และวิตกกังวล
คนที่ใช้มือถือจนติดมักจะมีอาการซึมเศร้าหรือวิตกกังวลตามมาได้ อันเนื่องมาจากการรอคอยหรือคาดหวังเสียงโทรศัพท์ หรือการตอบกลับข้อความต่างๆ และหากวันไหนลืมมือถือมาด้วยก็จะยิ่งรู้สึกเป็นกังวลมากขึ้น

10. ปวดศีรษะ 
การใช้สมาร์ทโฟนเป็นเวลานาน จะส่งให้ได้รับรังสีจากคลื่นโทรศัพท์ที่แผ่ออกมามากขึ้นตามไปด้วย ซึ่งรังสีดังกล่าวส่งผลต่อระบบประสาทด้วยทำให้เกิดอาการข้างเคียงตามมา นั่นคือปวดศีรษะ ปวดไมเกรน หรือบางรายก็อาจจะมีอาการที่รุนแรงกว่านั้น

Cr. http://www.obtphai.go.th/index.php?op=articlecenter_detail&art_id=1417&id=6663

Categories
Uncategorized

แนะนำ แอปติดตาม ประจำปี 2024

แจก! 10 วอลเปเปอร์โทรศัพท์ ข้อความมงคล คำคมเด็ด

สุดยอด แอปติดตาม ประจำปี 2567

 Life360

ข้อดีLife360

  1. ติดตามตำแหน่งได้ระยะไกล: Life360 สามารถตรวจสอบตำแหน่งของผู้ใช้ในครอบครัว ซึ่งมีประโยชน์ในกรณีฉุกเฉินหรือเมื่อต้องการทราบว่าคนในครอบครัวอยู่ที่ไหน
  2. ความปลอดภัยในการขับขี่: Life360 มีฟีเจอร์ในการติดตามและบันทึกพฤติกรรมการขับขี่ เช่น ความเร็ว และเส้นทางที่เดินทาง ทำให้สามารถติดตามการขับขี่ของคนในครอบครัว
  3. การแจ้งเตือนความปลอดภัย: Life360 สามารถสร้างและส่งการแจ้งเตือนเมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้น เช่น การถึงปลายทาง, การออกจากพื้นที่ที่กำหนดไว้
  4. ฟีเจอร์ของสมาชิกครอบครัว: Life360 สามารถแชร์ข้อมูลสถานะ, รูปภาพ, และข้อความหากันได้, ทำให้ครอบครัวสามารถเชื่อมต่อและสื่อสารกันได้ง่ายขึ้น
  5. ฟรีและมีตัวเลือกสมาชิกเสริม: Life360 มีรุ่นฟรีที่มีคุณสมบัติพื้นฐาน และมีแพ็กเกจสมาชิกเสริมสำหรับคุณสมบัติเพิ่มเติมที่มีความสามารถมากขึ้น

จุดสังเกต

  • อุปกรณ์ต้องเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต: Find My Device จำเป็นต้องเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตเพื่อให้สามารถติดตามตำแหน่งได้

ขั้นตอนการใช้งานเบื้องต้น ดาวน์โหลดแอปลงอุปกรณ์ > สมัครบัญชีผู้ใช้ > และเพิ่มบัญชีครอบครัว เพียงเท่านี้เราก็สามารถติดตามตำแหน่งได้แล้วครับ  ( แนะนำตัวนี้ผมก็ใช้ครับ )

สามารถดาวน์โหลดได้ที่ iOS  และ Android

 

 


Google Family Link

ข้อดี Google Family Link

  1. ติดตามตำแหน่ง: Google Family Link สามารถตรวจสอบตำแหน่งของลูกหลานและกำหนดเส้นสีแดง (Geofencing) เพื่อรับการแจ้งเตือนเมื่อลูกหลานเข้าหรือออกจากพื้นที่ที่กำหนดไว้
  2. การควบคุมเนื้อหา: ผู้ปกครองสามารถตั้งค่าการกรองเนื้อหาไม่เหมาะสมตามวัย
  3. จำกัดเวลาการใช้งาน: สามารถตั้งค่าเวลาให้เด็กได้ใช้งานอุปกรณ์ หรือกำหนดเวลาที่อนุญาตให้ใช้งานแต่ละวัน
  4. การตั้งค่าและจัดการที่สะดวก: การตั้งค่าและการจัดการสามารถทำได้จากระยะไกลผ่านแอป Family Link บนอุปกรณ์ผู้ปกครอง
  5. รู้เวลาการใช้งาน: ตั้งค่าเวลาแอปพลิเคชันทำให้ลูกหลานมีการจำกัดเวลาในการใช้งาน

จุดสังเกต

  • มีข้อจำกัดบางประการบน iOS: บนอุปกรณ์ iOS (iPhone, iPad), ฟีเจอร์บางอย่างอาจมีข้อจำกัดมากกว่าบน Android

ขั้นตอนการใช้งานเบื้องต้น ดาวน์โหลดแอป Google Family Link ลงอุปกรณ์หลัก > สมัครบัญชีผู้ใช้ > ดาวน์โหลด Family link เพิ่มบัญชีครอบครัว เพียงเท่านี้เราก็สามารถติดตามตำแหน่งได้แล้วครับ ( แนะนำสำหรับติดตามลูกหลานเพราะสามารถดูได้ว่าเด็กเล่นแอปอะไรบ้างแอปนี้ผมก็ใช้อยู่ครับ )

สามารถดาวน์โหลดได้ที่ iOS และ Android

 


แอปพลิเคชัน ติดตาม_find_my.png

ข้อดี Find My

  1. ติดตามตำแหน่งที่มีความแม่นยำ: Find My สามารถติดตามตำแหน่งของอุปกรณ์ Apple ที่ลงทะเบียนไว้ได้อย่างแม่นยำ, ทั้ง iPhone, iPad, Mac, Apple Watch, และ AirTag
  2. สามารถใช้งานได้ทั้งออนไลน์และออฟไลน์: แม้ว่าอุปกรณ์จะไม่ได้เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต
  3. ฟีเจอร์แจ้งเตือน (Lost Mode): จะทำการแจ้งเตือนตำแหน่งที่ล่าสุดของอุปกรณ์เมื่อถูกเปิดเครื่องหรือมีการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต
  4. ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว: Find My ให้ความสำคัญในด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว, โดยผู้ใช้จะต้องทำการยืนยันตัวตนเพื่อเข้าถึงข้อมูลตำแหน่ง

จุดสังเกต

  1. ต้องมี Apple ID และเปิดการใช้งาน: เพื่อให้ Find My ทำงานได้, ผู้ใช้ต้องลงทะเบียนใช้ Apple ID และต้องเปิดการใช้งาน Find My ในการตั้งค่าอุปกรณ์
  2. สามารถใช้ติดตามอุปกรณ์ของ Apple เท่านั้น

ขั้นตอนการใช้งานเบื้องต้น เปิดแอป Find My > ลงชื่อเข้าใช้ > เลือกอุปกรณ์ของเรา เพียงเท่านี้เราก็สามารถติดตามตำแหน่งได้แล้วครับ

สามารถเข้าใช้งานได้ที่ Find My

 


Find My Device 2024 ข้อดี Find My Device

  1. ความแม่นยำในการติดตามตำแหน่ง: Find My Device สามารถให้ข้อมูลตำแหน่งของอุปกรณ์ Android ที่ลงทะเบียนไว้ได้อย่างแม่นยำ
  2. ระบบแจ้งเตือน: Find My Device สามารถส่งการแจ้งเตือนเมื่ออุปกรณ์หายไปหรือถูกนำไปใช้โดยบุคคลอื่น
  3. ล็อกและลบข้อมูล: หากคุณไม่สามารถค้นหาอุปกรณ์ของคุณ, คุณสามารถใช้ฟีเจอร์ “ล็อก” เพื่อล็อกอุปกรณ์และส่งข้อความติดต่อหากพบ. และถ้ามีความจำเป็นคุณสามารถใช้ฟีเจอร์ “ลบข้อมูล” เพื่อลบข้อมูลบนอุปกรณ์
  4. การใช้งานฟรี: Find My Device เป็นบริการฟรีที่มีให้ในทุกอุปกรณ์ Android

จุดสังเกต

  1. ต้องเปิดการใช้งานก่อน: เพื่อให้ Find My Device ทำงานได้, ผู้ใช้จะต้องเปิดการใช้งานบนอุปกรณ์ของตน
  2. อุปกรณ์ต้องเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต: Find My Device จำเป็นต้องเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตเพื่อให้สามารถติดตามตำแหน่งได้

ขั้นตอนการใช้งานเบื้องต้น เปิดแอป Find My Device > ลงชื่อเข้าใช้ > เลือกอุปกรณ์ของเรา เพียงเท่านี้เราก็สามารถติดตามตำแหน่งได้แล้วครับ

สามารถดาวน์โหลดได้ที่ Android

 


ISHARING GPS LOCATIONข้อดี isharingsoft

  1. ความแม่นยำในการติดตามตำแหน่ง: isharingsoft สามารถตรวจสอบตำแหน่งของผู้ใช้ในครอบครัว ซึ่งมีประโยชน์ในกรณีฉุกเฉินหรือเมื่อต้องการทราบว่าคนในครอบครัวอยู่ที่ไหน
  2. การแจ้งเตือน: ไม่ว่าจะเป็นที่บ้าน โรงเรียน ซ้อมฟุตบอล หรือสถานที่ใดๆ ก็ตาม รับการแจ้งเตือนทางโทรศัพท์มือถือเมื่อมีครอบครัวมาหรือไป
  3. รายงานการขับขี่: เห็นภาพพฤติกรรมการขับขี่อย่างง่ายดายและติดตามเหตุการณ์อันตรายสำหรับการเดินทางแต่ละครั้ง
  4. ประวัติสถานที่: ดูว่าเพื่อนและครอบครัวของคุณเคยไปที่ไหนด้วยตำแหน่งที่แน่นอน เส้นทางที่แสดงภาพ หรือแม้แต่กิจกรรมขับรถ

จุดสังเกต

  • อุปกรณ์ต้องเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต: isharingsoft จำเป็นต้องเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตเพื่อให้สามารถติดตามตำแหน่งได้

ขั้นตอนการใช้งานเบื้องต้น ดาวน์โหลดแอปลงอุปกรณ์ > สมัครบัญชีผู้ใช้ > และเพิ่มบัญชีครอบครัว เพียงเท่านี้เราก็สามารถติดตามตำแหน่งได้แล้วครับ

สามารถดาวน์โหลดได้ที่ iOS และ Android

 


 

bff_gps ติดตาม

ข้อดี MixerBox BFF

  1. ค้นหาเพื่อนและโทรศัพท์: สามารถเพิ่มเพื่อนได้ไม่จำกัดจำนวนผ่านทางอีเมล, QR code
  2. ข้อความส่วนตัวและอีโมจิ: สามารถส่งข้อความและอีโมจิไปยังเพื่อนของคุณได้. ด้วยตัวเลือกอีโมจิที่น่ารักต่าง ๆ
  3. ซ่อนตำแหน่งชั่วคราว: ด้วย “โหมดผี” คุณสามารถทำให้ตำแหน่งของคุณเบลอหรือหยุดแบ่งปันชั่วคราวกับเพื่อนที่ระบุไว้
  4. วิดเจ็ตโทรศัพท์: คุณสามารถเห็นตำแหน่งปัจจุบันของเพื่อนที่คุณสนใจผ่านทางวิดเจ็ตได้ทันที

จุดสังเกต

  • อุปกรณ์ต้องเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต:MixerBox BFF จำเป็นต้องเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตเพื่อให้สามารถติดตามตำแหน่งได้

ขั้นตอนการใช้งานเบื้องต้น ดาวน์โหลดแอปลงอุปกรณ์ > สมัครบัญชีผู้ใช้ > และเพิ่มบัญชีครอบครัว เพียงเท่านี้เราก็สามารถติดตามตำแหน่งได้แล้วครับ

สามารถดาวน์โหลดได้ที่ iOS  และ Android

 


แอป ติดตาม

ข้อดี True iService

  1. ความแม่นยำในการติดตามตำแหน่ง:True iService สามารถตรวจสอบตำแหน่งของผู้ใช้ในครอบครัว ซึ่งมีประโยชน์ในกรณีฉุกเฉินหรือเมื่อต้องการทราบว่าคนในครอบครัวอยู่ที่ไหน
  2. ความเป็นสวนตัว: สามารถตรวจสอบตำแหน่งภายใต้เบอร์ที่ลงทะเบียนด้วยเลขบัตรประชาชนเดียวกันได้

จุดสังเกต

  1. อุปกรณ์ต้องเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต:True iService จำเป็นต้องเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตเพื่อให้สามารถติดตามตำแหน่งได้
  2. ต้องกดขอทราบตำแหน่ง: การกดขอตำแหน่งสามารถดูได้ 1 ชั่วโมงต่อครั้ง

ขั้นตอนการใช้งานเบื้องต้น เปิด True iService > บริการความช่วยเหลือ > ค้นหาตำแหน่ง > เลือกเบอร์ที่ต้องการ > ขอรู้ตำแหน่ง เพียงเท่านี้เราก็สามารถติดตามตำแหน่งได้แล้วครับ

สามารถดาวน์โหลดได้ที่ iOS และ Android


ค้นหาคอมพิวเตอรที่หาย

ข้อดี FIND MY MICROSOFT

  1. ความแม่นยำในการติดตามตำแหน่ง: FIND MY MICROSOFTสามารถตรวจสอบตำแหน่งของผู้ใช้ในครอบครัว ซึ่งมีประโยชน์ในกรณีฉุกเฉินหรือเมื่อต้องการทราบว่าคนในครอบครัวอยู่ที่ไหน
  2. สามารถติดตามอุปกรณ์ที่ใช้บัญชี Microsoft : สามารถตรวจสอบตำแหน่งอุปกรณ์ที่ลงชื่อเข้าใช้ด้วยบัญชี Microsoft ไม่ว่าจะเป็น PC Notebook หรือ Tablet

จุดสังเกต

  1. อุปกรณ์ต้องเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต: FIND MY MICROSOFT จำเป็นต้องเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตเพื่อให้สามารถติดตามตำแหน่งได้
  2. ความแม่นยำ: ความแม่นยำของตำแหน่งขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ PC Notebook และ Tablet

ขั้นตอนการใช้งานเบื้องต้น เปิด FIND MY MICROSOFT > ลงชื่อเข้าใช้งาน > ค้นหาตำแหน่ง > เลือกอุปกรณ์  เพียงเท่านี้เราก็สามารถติดตามตำแหน่งได้แล้วครับ

สามารถเข้าใช้งานได้ที่ FIND MY MICROSOFT


แอปติดตามแฟน 2567

ข้อดี Phone Tracker By Number

  1. ความแม่นยำในการติดตามตำแหน่ง:Phone Tracker By Numberสามารถตรวจสอบตำแหน่งของผู้ใช้ในครอบครัว ซึ่งมีประโยชน์ในกรณีฉุกเฉินหรือเมื่อต้องการทราบว่าคนในครอบครัวอยู่ที่ไหน
  2. การแจ้งเตือน: รับการแจ้งเตือนทางโทรศัพท์มือถือ

จุดสังเกต

  • อุปกรณ์ต้องเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต:Phone Tracker By Number จำเป็นต้องเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตเพื่อให้สามารถติดตามตำแหน่งได้

ขั้นตอนการใช้งานเบื้องต้น เปิด Phone Tracker By Number > ลงชื่อเข้าใช้งาน > ค้นหาตำแหน่ง > เลือกอุปกรณ์  เพียงเท่านี้เราก็สามารถติดตามตำแหน่งได้แล้วครับ

สามารถดาวน์โหลดได้ที่ iOS และ Android


Google map แอปติดตาม

 

ข้อดี Google Map

  1. ความแม่นยำในการติดตามตำแหน่ง: Google Mapสามารถตรวจสอบตำแหน่งของผู้ใช้ในครอบครัว
  2. ความเป็นส่วนตัว: ผู้ใช้สามารถแชร์ลิงก์ตำแหน่งให้ได้ตามที่ต้องการและสามารถยกเลิกการแชร์ได้เสมอ

จุดสังเกต

  1. อุปกรณ์ต้องเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต:Google map จำเป็นต้องเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตเพื่อให้สามารถติดตามตำแหน่งได้
  2. ต้องกดขอทราบตำแหน่ง: การกดขอตำแหน่งสามารถดูได้ 1 ชั่วโมงต่อครั้ง

ขั้นตอนการใช้งานเบื้องต้น เปิด Google Map > กดที่รูปโปรไฟล์ > การแชร์ตำแหน่ง > เลือกแบบ 1 ชั่วโมง หรือ จนกว่าคุณจะปิด ตามต้องการ > ใส่เมลของเราสำหรับไว้ดู เพียงเท่านี้เราก็สามารถติดตามตำแหน่งได้แล้วครับ ( แนะนำครับติดตามแบบเนี่ยๆไม่ต้องโหลดแอปเพิ่ม )

สามารถดาวน์โหลดได้ที่ iOS และ Android

Cr. https://news.trueid.net/detail/zQlW3GJO25WA

สมัครแพ็กเสริม ให้สนุกได้ www.pronetdonjai.com

Categories
Uncategorized

แจก! 10 วอลเปเปอร์โทรศัพท์ ข้อความมงคล คำคมเด็ด

แจก! 10 วอลเปเปอร์โทรศัพท์ ข้อความมงคล คำคมเด็ด

มาแล้ว ! วอลเปเปอร์โทรศัพท์ ข้อความมงคล 2024

การตั้งวอลเปเปอร์โทรศัพท์เป็นอีกหนึ่งวิธีแก้ชง เสริมดวงชะตาที่ง่าย สะดวก และประหยัดเวลา เพราะไม่จำเป็นต้องเดินทางไปวัดก็สามารถถือเคล็ดแก้ชงได้! แค่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา กดคลิกตั้งวอลหน้าจอถือเป็นอันเสร็จ *เราขอย้ำก่อนว่านี่เป็นความเชื่อส่วนบุคคลนะ! ใครที่มีใจศรัทธาอยากตั้งไว้ให้ชีวิตเฮงๆ ปังๆ เสริมมงคลต้อนรับปี ก็จัดไปอย่ารีรอ…

10 วอลเปเปอร์โทรศัพท์ อันไหนโดนใจ! เซฟไปใช้เลย!

เสริมดวงการงาน-เงิน-โชคลาภ

  • เงินจงมา เงินจงมา เงินจงมา!
  • ปีใหม่ที่ดี คือการมีเงินมาใช้หนี้
  • โชคอย่างเดียวที่ชอบ คือ “ถูกหวย”
  • ทำงานไหนก็ไม่สุข เท่าทำงานที่เรารัก
10 วอลเปเปอร์โทรศัพท์ ข้อความมงคล คำคมเด็ด ตั้งแก้ชงปี 2567
10 วอลเปเปอร์โทรศัพท์ ข้อความมงคล คำคมเด็ด ตั้งแก้ชงปี 2567

เสริมดวงความรัก

  • I Told พระแม่ลักษมี about “…………..” (เติมชื่อคนที่ชอบได้)
  • เราพร้อมมีแฟนแล้ว เหลือแฟนพร้อมมีเรา
  • อย่าปัดหัวใจเราทิ้งเลย ปัดขวาดีกว่า
10 วอลเปเปอร์โทรศัพท์ ข้อความมงคล คำคมเด็ด ตั้งแก้ชงปี 2567

เสริมดวงสุขภาพ

  • ไม่ปวดคอ ไม่ปวดบ่า ไม่ปวดไหล่
  • อายุวัยรุ่น กระดูกวัยชรา
  • “การไม่ปวดหลัง” เป็นลาภอันประเสริฐ
10 วอลเปเปอร์โทรศัพท์ ข้อความมงคล คำคมเด็ด ตั้งแก้ชงปี 2567

Cr. https://www.zipeventapp.com/blog/2024/01/09/10-goodlucky-wallpaper-phone/

สมัครแพ็กเสริม ให้สนุกได้ www.pronetdonjai.com

Categories
Uncategorized

สีโทรศัพท์เสริมดวง 2567 เสริมความปังตามวันเกิด

สีโทรศัพท์เสริมดวง 2567 ตามวันเกิด

สีโทรศัพท์เสริมดวงวันจันทร์

 

การงาน : สีน้ำตาล/สีม่วง

การเงิน : สีทอง/สีน้ำตาล

โชคลาภ : สีเทา/สีม่วง

ความรัก : สีชมพู/สีเหลือง/สีขาว

สุขภาพ : สีดำ

สีโทรศัพท์เสริมดวงวันอังคาร

 

การงาน : สีส้มแสด/สีขาว

การเงิน : สีแดง/สีดำ

โชคลาภ : สีชมพู/สีเหลือง

ความรัก : สีน้ำเงิน/สีม่วง

สุขภาพ : สีเทา

สีโทรศัพท์เสริมดวงวันพุธ

 

การงาน : สีน้ำตาล/สีฟ้า

การเงิน : สีส้ม/สีชมพู

โชคลาภ : สีบานเย็น

ความรัก : สีครีม/สีขาว/สีเทา

สุขภาพ : สีม่วง/สีดำ

สีโทรศัพท์เสริมดวงวันพฤหัสบดี

 

การงาน : สีส้ม/สีเขียว

การเงิน : สีแดง/สีชมพู

โชคลาภ : สีกรม/สีทอง

ความรัก : สีเหลือง/สีม่วง

สุขภาพ : สีส้ม

สีโทรศัพท์เสริมดวงวันศุกร์

 

การงาน : สีน้ำเงิน/สีเขียว/สีโอดล์โรส

การเงิน : สีกากี/สีม่วง

โชคลาภ : สีครีม/สีเหลือง

ความรัก : สีฟ้า/สีชมพู/สีขาว

สุขภาพ : สีเหลือง/สีเทา

สีโทรศัพท์เสริมดวงวันเสาร์

 

การงาน : สีม่วง/สีส้ม

การเงิน : สีฟ้า/สีน้ำเงิน

โชคลาภ : สีทอง/สีแดง/สีน้ำตาลอิฐ

ความรัก : สีชมพู/สีโอดล์โรส/สีเขียวอ่อน

สุขภาพ : สีดำ

สีโทรศัพท์เสริมดวงวันอาทิตย์

 

การงาน : สีน้ำตาล/สีม่วง

การเงิน : สีกรม/สีชมพู

โชคลาภ : สีเขียวเข้ม/สีแดงเลือดหมู

ความรัก : สีแดง/สีดำ

สุขภาพ : สีเขียว

Cr. https://sistacafe.com/summaries/สีโทรศัพท์เสริมดวง-2567-เสริมความปังตามวันเกิด-id=97951

สมัครแพ็กเสริม ให้สนุกได้ www.pronetdonjai.com

Categories
Uncategorized

วิวัฒนาการของโทรศัพท์มือถือ ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน

วิวัฒนาการของโทรศัพท์มือถือ ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน

        พาย้อนชมวิวัฒนาการของโทรศัพท์มือถือ ตั้งแต่ยุคอดีตจนถึงปัจจุบัน มาดูการเปลี่ยนแปลงของโทรศัพท์มือถือในแต่ละยุคกัน

          ตลอดเวลามากกว่า 30 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่สิ่งที่เรียกว่าโทรศัพท์มือถือได้ถือกำเนิดขึ้นมาบนโลก ก็มีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงมาเรื่อย ๆ ตั้งแต่ยุคที่มือถือยังมีหน้าจอเป็นแบบขาว-ดำ สู่ยุคมือถือหน้าจอสี จนกลายเป็นยุคสมาร์ตโฟนในปัจจุบัน และน่าจะถูกพัฒนาให้มีความก้าวล้ำมากขึ้นอีกเรื่อย ๆ ในอนาคต วันนี้เราจึงจะพาเพื่อน ๆ ไปย้อนดูวิวัฒนาการของโทรศัพท์มือถือกัน ว่าตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันนั้นมีความเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง

วิวัฒนาการของโทรศัพท์มือถือ


โทรศัพท์มือถือยุคบุกเบิก (1G)

วิวัฒนาการของโทรศัพท์

          ยุคเริ่มต้นของโทรศัพท์มือถือที่ใช้สัญญาณแบบแอนะล็อกล้วน ๆ สามารถใช้โทร. คุยกันได้อย่างเดียว โดยมือถือ 1G อย่าง Motorola DynaTAC 8000X ที่กำเนิดในยุค 1980s นั้น ถือว่าเป็นโทรศัพท์เครื่องแรกของโลกที่สามารถพกพาได้ จะมีขนาดตัวเครื่องที่ค่อนข้างใหญ่ โดยมีความสูงถึงประมาณ 10 นิ้ว น้ำหนักมากกว่า 1 กิโลกรัม หรือ Ericsson Hotline Combi 450 กับ Dancall 7060 ที่เป็นโทรศัพท์มือถือแบบกระเป๋าหิ้ว ซึ่งมีน้ำหนักประมาณ 1-5 กิโลกรัมเลยทีเดียว

โทรศัพท์มือถือยุคดิจิทัล (2G)

วิวัฒนาการของโทรศัพท์
ภาพจาก : shutterstock.com / gd_project

          ถัดมาเป็นยุคที่โทรศัพท์มือถือเริ่มแพร่หลายมากขึ้น โดยในยุคนี้โทรศัพท์มือถือจะเริ่มรองรับการส่งข้อมูลแบบดิจิทัล โดยรองรับการส่งข้อความ SMS และมีการพัฒนาให้สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตด้วยเทคโนโลยีอย่าง GPRS และ EDGE ได้ ซึ่งตัวเครื่องมือถือ 2G จะยังคงเป็นโทรศัพท์ปุ่มกด แต่จะมีขนาดที่เล็กและพกพาได้สะดวกมากขึ้น โดยในช่วงปี 1990s จะเริ่มผลิตมาเป็นหน้าจอขาว-ดำก่อนอย่างเช่นรุ่นในตำนาน Nokia 3310 ที่ขึ้นชื่อเรื่องความทนทานและมีคนนิยมใช้กันมาก ซึ่งจากนั้นไม่กี่ปีก็มีการผลิตออกมาเป็นรุ่นหน้าจอสี โดยในบางรุ่นจะมาพร้อมกับฟังก์ชันกล้องถ่ายรูปในตัวด้วย

โทรศัพท์มือถือยุคสมาร์ตโฟน (3G)

วิวัฒนาการของโทรศัพท์
ภาพจาก : apple.com

          ในช่วงปลายยุค 2000s โทรศัพท์มือถือเริ่มถูกพัฒนาเป็นสมาร์ตโฟนที่สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงด้วยเทคโนโลยี HSPA หรือที่เรียกกันว่า 3G โดยตัวเครื่องจะมาพร้อมหน้าจอแบบทัชสกรีนที่สามารถใช้งานได้ด้วยการใช้นิ้วสัมผัส พร้อมปุ่มโฮมอยู่ใต้จอ เช่น iPhone ที่ออกมาเป็นสมาร์ตโฟนรุ่นแรก ๆ ในตลาด ซึ่งขนาดหน้าจอของสมาร์ตโฟนจะมีขนาดที่ใหญ่กว่าและมีความละเอียดสูงกว่ามือถือในยุคก่อน ๆ มาก นอกจากนี้มือถือทุกรุ่นก็มักจะมีกล้องในตัว รวมทั้งสามารถดาวน์โหลดแอปฯ ต่าง ๆ มาใช้งานได้อีกด้วย

โทรศัพท์มือถือยุคไร้ปุ่ม (4G)

วิวัฒนาการของโทรศัพท์

          เมื่อเข้าสู่ช่วงปี 2010s มือถือ 4G ที่รองรับเทคโนโลยีเครือข่ายแบบ LTE ก็เริ่มแพร่หลายมากขึ้น ทำให้สามารถใช้อินเทอร์เน็ตด้วยความเร็วที่สูงกว่า 3G หลายเท่าตัว โดยมือถือในยุคนี้จะมีการพัฒนาให้มีขนาดหน้าจอใหญ่ขึ้น เริ่มมีการตัดปุ่มโฮมออก ทำรูหรือรอยบากบนหน้าจอเพื่อฝังกล้องหน้า ทำให้มีขอบจอน้อยลง หน้าจอมีขนาดใหญ่และอัตราส่วนยาวขึ้น บางรุ่นเป็นหน้าจอแบบขอบโค้ง และยังมีมือถือบางยี่ห้อที่เริ่มพัฒนาโทรศัพท์พับได้เป็นรุ่นแรก ๆ ออกมาอีกด้วย

โทรศัพท์มือถือยุคปัจจุบัน (5G)

วิวัฒนาการของโทรศัพท์
ภาพจาก : samsung.com

          โทรศัพท์มือถือในยุค 5G ปัจจุบันอาจจะมีตัวเครื่องที่ยังไม่ค่อยแตกต่างจากยุค 4G สักเท่าไร นอกจากสเปกที่แรงขึ้น กับการรองรับเครือข่าย 5G ที่มีความเร็วสูงกว่า 4G ราว ๆ 20 เท่า แต่ก็มีผู้ผลิตมือถือเริ่มผลิตรุ่นพับหน้าจอได้ออกมากันมากขึ้น ถึงแม้ว่าจะยังมีราคาที่ค่อนข้างสูงและยังมีคนนิยมใช้กันไม่มาก แต่ในอนาคตก็อาจจะมีราคาที่เป็นเจ้าของได้ง่ายและแพร่หลายมากขึ้น รวมทั้งอาจมีโทรศัพท์มือถือรูปแบบใหม่ ๆ ออกมาอีกก็เป็นได้

Cr. https://mobile.kapook.com/view5907.html

สมัครแพ็กเสริม ให้สนุกได้ www.pronetdonjai.com